แนะนำ 4 ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ ที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ 


ถึงแม้ว่าเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ จะมีแผ่นกรองที่เรียกว่า HEPA (High-Efficiency Particulate Air) บรรจุมาพร้อมภายในเครื่องแล้ว แต่เครื่องฟอกอากาศบางประเภทก็มีตัวกรองประเภทอื่น ๆ เสริมเข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มประโยชน์ในอีกหลากหลายด้าน เช่น….การเพิ่มตัวกรองอย่างถ่านกัมมันต์หรือแสง UV และเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นที่เน้นเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม จะประกอบด้วยตัวกรอง 2 – 3 ประเภทรวมกันอยู่ในเครื่องเดียว  ดังนั้นเพื่อทำให้คุณเข้าใจถึงตัวกรองของเครื่องฟอกอากาศ เราจะมาแนะนำ 4 ประเภทเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมกัน 

4 ประเภทเครื่องฟอกอากาศ ที่มีการกรองที่แตกต่างกัน 

  • เครื่องฟอกอากาศ แผ่นกรอง HEPA: เครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรอง HEPA สามารถดักจับสารมลพิษที่มีขนาดเล็กเพียง 0.3 ไมครอนได้ อนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์ โดยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่เรามองเห็นได้นั้นมีขนาดอย่างน้อย 50 – 60 ไมครอน เป็นแผ่นกรองที่ได้รับความนิยมมากที่สุด  
  • ถ่านกัมมันต์: เครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรองถ่านกัมมันต์ สามารถใช้ในการดักกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถจับไวรัสและแบคทีเรียเช่นตัวกรอง HEPA ได้ จึงมักใช้ควบคู่กันสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดกลิ่นเพิ่มเติม ส่วนใหญ่มักใช้ในห้องที่มีกลิ่นอับ จากกลิ่นของสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นที่มาจากพรม  
  • เครื่องตกตะกอนไฟฟ้าสถิต: เครื่องฟอกอากาศที่มีเครื่องตกตะกอนด้วยไฟฟ้าสถิต จะใช้พลังงานไฟฟ้าแรงสูง ชาร์จอนุภาคที่ผ่านตัวกรอง เชื้อโรคที่ตายแล้วจะสะสมอยู่บนแผ่นไฟฟ้าสถิต ดังนั้นเพื่อรักษาประสิทธิภาพของแผ่นกรองชนิดนี้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นไฟฟ้าสถิตเหล่านี้เป็นประจำ ทำให้ต้องซื้อแผ่นเปลี่ยนเพิ่มเติม  
  • เครื่องฟอกอากาศแสงอัลตราไวโอเลต: เครื่องฟอกอากาศเหล่านี้จะใช้รังสี UV ฆ่าเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ   
  • เครื่องกำเนิดโอโซน: เครื่องฟอกอากาศที่มีเครื่องกำเนิดโอโซนมักใช้ในโรงแรม ใช้ในการทำให้กลิ่นในห้องมีความสะอาด อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค กำจัดแบคทีเรีย ฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็ก และกำจัดเชื้อราได้ในแบบประสิทธิภาพสูงสุด 

ซึ่งเครื่องกรองแต่ชนิดก็มีการเสริมฟังก์ชั่นการกรองเพิ่มเติม ก่อนที่คุณจะซื้อตัวกรองชนิดไหนมาใช้งาน ก็ขอให้ศึกษาเพิ่มเติมกันให้ดี ๆ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานในระยะยาว และอย่าลืมศึกษาวิธีการเปลี่ยนเครื่องตัวกรองอย่างเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้เครื่องฟอกอากาศของคุณนั้นสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและทำให้มั่นใจว่าคุณจะได้สูดอากาศดี ๆ ภายในบ้านหรือภายในห้องนอนของคุณได้ตลอดทุกช่วงเวลา